เปิดที่มา “หลังคาสีฟ้า” สนามบินตรัง! เทอร์มินอลใหม่คืบ 80% แล้วเสร็จ มิ.ย.นี้

รายงานข่าวจากกรมท่าอากาศยาน (ทย.) แจ้งว่า ขณะนี้ภาพรวมงานก่อสร้างอาคารที่พักผู้โดยสารหลังใหม่ ท่าอากาศยานตรัง พื้นที่กว่า 3 หมื่นตารางเมตร (ตร.ม.) วงเงิน 1,070 ล้านบาท มีความคืบหน้าประมาณ 80% คาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณเดือน มิ.ย. 66 จากนั้นจะดำเนินการตรวจสอบความพร้อมของระบบต่างๆ ใช้เวลาอีก 3-4 เดือน หากไม่พบปัญหาใด จะสามารถเปิดให้บริการได้ในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว (ไฮซีซั่น) หรือประมาณเดือน ต.คคำพูดจาก รวมสล็อตทดลองเล่น. นี้ ซึ่งอาคารผู้โดยสารหลังใหม่นี้ จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารของท่าอากาศยานตรังได้มากขึ้น จากเดิม 600 คนต่อชั่วโมง (ชม.) หรือ 1.7 ล้านคนต่อปี เพิ่มเป็น 1,200 คนต่อ ชม. หรือ 3.4 ล้านคนต่อปี

รายงานข่าวแจ้งต่อว่า การออกแบบสถาปัตยกรรมอาคารผู้โดยสารหลังใหม่ เน้นความเป็นเอกลักษณ์ของภาคใต้ ผสมผสานกับความทันสมัย และรักษาสิ่งแวดล้อม เช่น หลังคาเป็นแบบมัสยิดตะโละมาเนาะ ซึ่งเป็นศาสนสถานเก่าแก่ในศาสนาอิสลาม มีสถาปัตยกรรมที่สวยงาม สร้างแบบศิลปะไทยพื้นเมืองประยุกต์ ผสมผสานศิลปะแบบจีน และมลายู นอกจากนี้ยังนำลวดลายของหนังตะลุง และมโนราห์ ศิลปะการแสดงประจำท้องถิ่นภาคใต้ มาตกแต่งส่วนต่างๆ ภายในอาคาร รวมทั้งบริเวณโดยรอบอาคารจะจัดเป็นพื้นที่สีเขียว ปลูกต้นไม้ เพื่อสร้างความร่มรื่น และให้ความร่มเงาคำพูดจาก เว็บสล็อตทดลองเล่น

รายงานข่าวแจ้งอีกว่า สำหรับกระแสสังคมที่มองว่า สีหลังคาไม่ตรงกับแบบที่ก่อสร้างไว้นั้น ทย. ขอชี้แจงว่า โมเดลของอาคารผู้โดยสารหลังใหม่ที่ตั้งไว้อยู่ที่อาคารผู้โดยสารหลังปัจจุบันนั้น มีหลังคาสีเทาตัดกับสีน้ำตาลจริง ซึ่งโมเดลนี้จัดทำไว้ตั้งแต่ยังไม่ได้รับงบประมาณในการดำเนินการ แต่ภายหลังได้รับงบฯ มีการหารือร่วมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง จึงปรับแบบในส่วนของสีหลังคาให้เหมาะสม สวยงามมากขึ้น และสอดคล้องกับสภาพแวดล้อมของ จ.ตรัง ที่เป็นเมืองแห่งท้องทะเล ซึ่งก่อนเครื่องบินถึงท่าอากาศยานตรัง ก็จะได้เห็นน้ำทะเล ดังนั้นจึงเปลี่ยนเป็นสีฟ้าให้สอดรับกัน อีกทั้งจะทำให้ตัวอาคารมีความสว่างสดใส ไม่ทึบเหมือนสีเดิม อย่างไรก็ตาม ทย. ต้องขออภัยด้วย ที่ไม่ได้ไปเปลี่ยนสีหลังคาของโมเดลที่ตั้งไว้เดิม ให้เป็นสีหลังคาเดียวกับแบบปัจจุบัน

รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า ส่วนการต่อเติมความยาวทางวิ่ง (รันเวย์) ท่าอากาศยานตรัง จาก 2,100 เมตร เป็น 2,990 เมตร พร้อมระบบไฟฟ้าสนามบิน วงเงิน 1,800 ล้านบาทนั้น ขณะนี้มีความคืบหน้าประมาณ 14% โดยผู้รับจ้างยังคงดำเนินการก่อสร้างในพื้นที่เดิมของท่าอากาศยานประมาณ 1,659 ไร่ไปก่อน ส่วนพื้นที่เวนคืนที่ดินในส่วนที่ต้องเพิ่มเติม ในท้องที่ ต.ควนธานี อ.กันตัง และ ต.โคกหล่อ ต.ควนปริง อ.เมืองตรัง จ.ตรัง รวม 675 ไร่ 239 แปลงนั้น ปัจจุบันคณะกรรมการกำหนดราคาอสังหาริมทรัพย์ อยู่ระหว่างการกำหนดราคาจะแล้วเสร็จภายในเดือน ก.พ. นี้ โดยงบประมาณที่ใช้เวนคืนอยู่ที่ประมาณ 800 ล้านบาท เบื้องต้นมีผู้ได้รับผลกระทบจากการเวนคืน 241 ราย

รายงานข่าวแจ้งอีกว่า คาดว่ากลางปี 66 จะสามารถส่งมอบพื้นที่เพิ่มเติมให้ผู้รับจ้างดำเนินการต่อเติมความยาวรันเวย์ในพื้นที่เวนคืนได้ ซึ่งตามแผนจะก่อสร้างแล้วเสร็จปี 68 เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จ จะสามารถรองรับอากาศยานที่มีขนาดใหญ่ขึ้น เช่น โบอิ้ง B747, โบอิ้ง B777 และแอร์บัส A330 ขนาด 300-400 ที่นั่ง สามารถบินตรงไปยังประเทศในแถบยุโรป และแถบเอเชียได้ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว เศรษฐกิจ และการคมนาคมขนส่งทางอากาศของ จ.ตรัง และจังหวัดใกล้เคียง ปัจจุบันผู้โดยสารท่าอากาศยานตรังอยู่ที่ 1,500-1,600 คนต่อวัน วันละ 10-12 เที่ยวบิน (ไป-กลับ) ขณะที่ก่อนเกิดโควิด-19 ปี 62 ผู้โดยสารอยู่ที่กว่า 2,000 คนต่อวัน และมี 16 เที่ยวบินต่อวัน (ไป-กลับ)

“คมนาคม” ปรับโฉมห้อง “รมว.-รมช.” ใหม่ ต้อนรับเข้าทำงานวันแรกพรุ่งนี้!

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 6 ก.ย. กระทรวงคมนาคมได้เตรียมความพร้อมต้อนรับ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม นางมนพร เจริญศรี และนายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม ซึ่งจะเดินทางเข้าทำงานที่กระทรวงคมนาคม ในวันพรุ่งนี้ (7 ก.ย.) เป็นวันแรกอย่างเป็นทางการ

โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังเร่งปรับปรุงห้องทำงานของรัฐมนตรีทั้ง 3 คน ทั้งทาสีใหม่ เปลี่ยนผ้าม่าน และเฟอร์นิเจอร์ใหม่ทั้งหมด รวมถึงทำความสะอาด จัดตกแต่งบริเวณภายในกระทรวงให้มีความสวยงามเป็นระเบียบเรียบร้อย พร้อมทั้งทำป้ายต้อนรับผ่านจอแอลอีดี

สำหรับกำหนดการเข้าปฏิบัติหน้าที่กระทรวงคมนาคม ในวันที่ 7 ก.ย. นั้น รัฐมนตรีทั้ง 3 คน จะเดินทางมาในเวลา 09.00 น. โดยจะเข้าสักการะพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ มหิศรภูมิพลราชวรางกูร กิติสิริสมบูรณอดุลยเดช สยามินทราธิเบศราชวโรดม บรมนาถบพิตร พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว จากนั้น สักการะองค์พระพุทธคมนาคมบพิธ ไหว้ศาลพ่อปู่ประจำกระทรวงคมนาคม และสักการะพระบรมสารีริกธาตุ ก่อนเข้าสู่หอประชุมราชรถสโมสร มอบนโยบายแก่ผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงคมนาคม.คำพูดจาก ทดลองปั่นสล็อต

เปิดท็อป 10 รัฐวิสาหกิจ ส่งรายได้เข้าหลวงเยอะสุดรอบปี คอหวยซื้อไม่แผ่วดันกองสลากยืนหนึ่ง

ตามที่สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ได้กำหนดเป้าหมายปีงบประมาณ 2566 ในการจัดเก็บเงินนำส่งรายได้แผ่นดินจากรัฐวิสาหกิจและกิจการที่กระทรวงการคลังถือหุ้นต่ำกว่าร้อยละ 50 จำนวน 149,600 ล้านบาท

โดย ข้อมูลล่าสุด ณ สิ้นไตรมาส 3 ปีงบประมาณ 2566 (1 ตุลาคม 2565-30 มิถุนายน 2566) สคร. สามารถจัดเก็บเงินนำส่งรายได้แผ่นดินฯ รวมทั้งสิ้นจำนวน 122,830 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 82 ของเป้าหมายการจัดเก็บในปีงบประมาณ 2566 ต่ำกว่าประมาณการสะสม 573 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ในข้อมูลการนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจเข้าแผ่นดินส่วนใหญ่ มาจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล มาเป็นอันดับหนึ่ง เนื่องจากพบว่าสถิติการจำหน่ายลอตเตอรี่ยังคงขายดีอย่างต่อเนื่องและไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว โดยขายหมดเกลี้ยงทุกงวด งวดละ 100 ล้านใบ ขณะที่หน่วยงานนำส่งรายได้รองลงมา ได้แก่ บริษัท ปตทคำพูดจาก ทดลองเล่นสล็อตทุกค่ายไม่ต้องสมัคร. จำกัด (มหาชน) การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ธนาคารออมสิน และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เป็นต้น ทั้งนี้ รัฐวิสาหกิจที่นำส่งรายได้แผ่นดินสะสมสูงสุด 10 อันดับแรก ณ สิ้นไตรมาส 3 ปีงบประมาณ 2566 มีดังนี้

สำหรับ 10 อันดับ รัฐวิสาหกิจ เงินนำส่งรายได้แผ่นดิน

1 สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล 32,729 ล้านบาท

2 บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) 29,198 ล้านบาท

3 การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย 11,507ล้านบาท

4 ธนาคารออมสิน 11,055 ล้านบาท

5 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค 8,637 ล้านบาท

6 การทางพิเศษแห่งประเทศไทย 5,075 ล้านบาท

7 การท่าเรือแห่งประเทศไทย 4,879 ล้านบาท

9 ธนาคารอาคารสงเคราะห์ 4,731 ล้านบาท

8 การไฟฟ้านครหลวง 3,804 ล้านบาท

10 การประปานครหลวง 2,387 ล้านบาทคำพูดจาก ทดลองเล่น

11 อื่นๆ 8,828 ล้านบาท

 รวม 122,830 ล้านบาท

+++ หมายเหตุ : ข้อมูลเงินนำส่งรายได้แผ่นดินของรัฐวิสาหกิจที่กระทรวงการคลัง โดย สคร. จัดเก็บ ไม่รวมเงินนำส่งรัฐประเภทอื่น เช่น ภาษีหรือค่าธรรมเนียมอื่นๆ

เห็นแล้วหิว เปิดเมนูสินค้าจีไอ จากเชฟมิชลิน สู่อาหารระดับไฟน์ไดนิ่ง

เมื่อเร็วๆ นี้ กรมทรัพย์สินทางปัญญา ได้ชวนนักชิม-กูรูอาหารชื่อดัง ร่วมพิสูจน์คุณภาพความอร่อย จากอาหารที่ผลิตจากสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ หรือ GI (จีไอ) ไทย ในงาน “สัมผัสสำรับ GI สุดประณีตด้วยเชฟมิชลิน” เป็นความร่วมมือจากร้านวรรณยุค โดยฝีมือของเชฟชาลี กาเดอร์ เจ้าของรางวัลบิบ กูร์มองด์ จากมิชลินไกด์ประเทศไทยคำพูดจาก คาสิโนออน

ทั้งนี้ ร้านวรรณยุค ร้านอาหารไทยระดับ Fine Dining ได้นำวัตถุดิบ GI ถึง 23 รายการ มารังสรรค์เป็นเมนูอาหารสุดพิเศษ ที่ผสมผสาน ความเป็นไทยและสากลได้อย่างลงตัว โดยขายได้ต่อหัวสูงถึงคอร์สละหลายพันบาท

  • น้ำพริกลงเรือจากไข่เค็มไชยา
  • หมูย่างมะขามเทศเพชรโนนไทย
  • ขนมเบื้องญวนไชโป๊โพธาราม
  • ปลากะพงสามน้ำทะเลสาบสงขลาย่าง
  • ยำปลาดุกร้าทะเลน้อยพัทลุงใส่มะพร้าวอ่อน
  • เนื้อโคขุนโพนยางคำเค็ม
  • ยำเนื้อมังคุดเขาคีรีวง ชูรสด้วยกระเทียมศรีสะเกษ หอมแดงศรีสะเกษ และพริกไทยจันท์

ด้านนายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กล่าวว่า การเพิ่มมูลค่าด้วยสินค้า GI สุดท้ายจะสะท้อนกลับไปที่ชุมชน ชาวบ้านจะมีรายได้เพิ่มมากขึ้น กรมทรัพย์สินทางปัญญาเข้าไปช่วยพัฒนาควบคุมคุณภาพ และหาช่องทางการตลาดที่จะโปรโมตสินค้า วันนี้จะให้ขึ้นไปอยู่ในระดับมิชลิน ในงานนี้ได้นำนักชิมและกูรูด้านอาหารชื่อดังของเมืองไทยมาร่วม เปิดประสบการณ์ลิ้มรสอาหารไทยระดับ Fine Dining และถ่ายทอดประสบการณ์สู่ผู้ชมในโลกออนไลน์ เผยแพร่อัตลักษณ์วัฒนธรรมอาหารไทย สร้างการรับรู้สินค้า GI ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง ซึ่งอินฟลูเอนเซอร์ ที่นำมา มีผู้ติดตามรวมกันถึง 10 ล้านคนคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

‘เดอะมอลล์’ แนะรัฐจัดเฟสติวัลทั่วไทยดูดท่องเที่ยว

น.ส.ศุภลักษณ์ อัมพุช ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า ในฐานะเอกชนด้านค้าปลีกจึงอยากเสนอแนะรัฐบาลเปิดฟรีวีซ่าให้แก่นักท่องเที่ยวในหลายประเทศ เพื่อดึงดูดให้เข้ามาท่องเที่ยวในไทย พร้อมกับสร้างซอฟต์เพาเวอร์ด้วยการจัดงานเฟสติวัลสุดยิ่งใหญ่ โดยรวมกลุ่มทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด จัดงานพร้อมกันทั่วทั้งประเทศ เพื่อให้เกิดความยิ่งใหญ่ น่าตื่นตา ตื่นใจ นำนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมารวมไว้ในประเทศไทยที่เดียว อย่าจัดงานแบบกระจายเพราะมีขนาดเล็กความน่าสนใจน้อยคำพูดจาก สล็อตทรูวอเลท

“เราต้องทำให้ต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวไทยแล้วสนุกอยากนำเงินเข้ามาใช้จ่ายในประเทศเรา ทำให้ไทยกลายเป็นศูนย์กลางของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้ได้ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาเองแบบส่วนตัว ฉะนั้นจึงต้องมีความพร้อมทั้งด้านคน โรงแรม ร้านอาหาร และวัฒนธรรม โดยเฉพาะสถานที่ท่องเที่ยวที่สนุกและเป็นเมืองไม่หลับใหล อาทิ กรุงเทพฯ พัทยา ภูเก็ต เชียงใหม่ เพื่อให้เกิดการใช้เงินได้ 24 ชั่วโมง เช่นเดียวกับร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น จากปกติที่ปิดบริการตี 2 ก็เปลี่ยนเป็นปิดตี 4 ซึ่งจะช่วยสร้างโอกาสให้แก่คนค้าขายปัจจุบันที่มีถึง 10 ล้านคนทั่วประเทศ”คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

ทั้งนี้ เพื่อรองรับฐานลูกค้าทั้งชาวไทยและต่างชาติ ล่าสุด บริษัทจึงจับมือกับธนาคารกรุงเทพ เปิดตัวบัตรเครดิตและเดบิตโคแบรนด์ แบงค็อก แบงก์ เอ็ม วีซ่า ขยายฐานลูกค้าใหม่และมอบสิทธิพิเศษให้แก่ลูกค้าร่วมกันเน้นกลุ่มคนทำงานที่มีกำลังซื้อสูง จากปัจจุบันกลุ่มเดอะมอลล์มีฐานลูกค้าบัตรเครดิตจากพันธมิตรเดิม 7-8 แสนราย และมีสมาชิกเอ็มการ์ด 5.3 ล้านราย ขณะที่ธนาคารกรุงเทพ มีฐานลูกค้ารายย่อย 10 ล้านราย โดยเป็นลูกค้ารายใหญ่กลุ่มนักธุรกิจ เอสเอ็มอี 1 ล้านราย ซึ่งตั้งเป้าหมายจากความร่วมมือดังกล่าว จะช่วยให้มีลูกค้าสมัครบัตร 1.5-2 ล้านรายใน 5 ปี

‘โตโยต้า’ ผนึกกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ยกระดับธุรกิจชุมชนไทย

นายนันทวัฒน์ ศรีวรัตน์อัชกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมา ได้ทำพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อยกระดับการพัฒนาธุรกิจชุมชนไทยอย่างครบวงจร ควบคู่สิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน คำพูดจาก ฟรี เกมสล็อตทดลองเล่น

ทั้งนี้ โครงการ “โตโยต้า ธุรกิจชุมชนพัฒน์” เริ่มตั้งแต่ปี พ.ศ. 2557 โดยเกิดจากความมุ่งหวังที่จะมีส่วนช่วยในการแก้ไขปัญหา ปรับปรุง และพัฒนาการดำเนินงานของธุรกิจชุมชนไทย อันเป็นภาคส่วนที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากของประเทศไทย ให้สามารถเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน เพิ่มพูนกำไร และดำเนินธุรกิจด้วยตนเองได้อย่างยั่งยืน 

โดยตลอดระยะเวลา 10 ปี ที่ผ่านมา โครงการ “โตโยต้า ธุรกิจชุมชนพัฒน์” ได้มีส่วนเข้าไปช่วยเหลือธุรกิจชุมชนในลักษณะของการเป็น “พี่เลี้ยงทางธุรกิจ” โดยร่วมศึกษาถึงสาเหตุของปัญหา พร้อมนำองค์ความรู้และปัจจัยแห่งความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจของโตโยต้า ได้แก่ วิถีโตโยต้า ระบบการผลิตแบบโตโยต้า และหลักการไคเซ็น เข้าไปถ่ายทอดและประยุกต์ใช้ในการปรับปรุงให้เหมาะสมกับบริบทและความพร้อมของธุรกิจชุมชนต่างๆ มีส่วนช่วยให้การดำเนินงานของธุรกิจเหล่านี้มีการพัฒนาและได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นในด้านต่างๆ อย่างเป็นรูปธรรม สามารถลดต้นทุน เพิ่มผลิตภาพ และสร้างผลกำไร พร้อมทั้งได้มีการยกระดับไปสู่การเปิดเป็น “ศูนย์การเรียนรู้โตโยต้า ธุรกิจชุมชนพัฒน์” 6 แห่ง ครอบคลุมพื้นที่ครบทุกภูมิภาคทั่วประเทศ 

นอกจากนี้ โตโยต้ายังได้มีการขยายผลโดยนำองค์ความรู้และประสบการณ์จากการดำเนินโครงการ ไปถ่ายทอดเพื่อพัฒนาศักยภาพธุรกิจ โดยความร่วมมือกับภาคส่วนต่างๆ อาทิ ความร่วมมือกับกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ในการดำเนินงานศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรมในจังหวัดกรุงเทพฯ นครราชสีมา ชลบุรี และโครงการ ชุมชนดีพร้อม ตลอดจนการจัดอบรมสัมมนาให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการธุรกิจชุมชนจากทุกภูมิภาคทั่วประเทศอีกด้วย ทำให้ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา การขยายผลต่อยอดองค์ความรู้ของโครงการโตโยต้าธุรกิจชุมชนพัฒน์ ได้มีส่วนช่วยในการพัฒนาธุรกิจต่างๆ ไปแล้ว 2,089 ธุรกิจ ช่วยเพิ่มพูนผลกำไรได้เป็นมูลค่ารวม 805 ล้านบาท และส่งต่อองค์ความรู้ให้แก่ผู้ประกอบการและผู้คนทั่วไปที่สนใจเรียนรู้ไปแล้วกว่า 100,000 คน

สำหรับการก้าวสู่ปีที่ 11 ของโครงการ โตโยต้า ธุรกิจชุมชนพัฒน์ มีความมุ่งหวังที่จะยกระดับการถ่ายทอดองค์ความรู้เพื่อช่วยปรับปรุงและพัฒนาธุรกิจชุมชนไทยให้ครอบคลุมในทุกมิติของการดำเนินงานอย่างครบวงจร ควบคู่ไปกับการส่งเสริมแนวคิดด้านสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน จึงนำมาสู่การลงนามความร่วมมือกับกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ในการส่งเสริมความร่วมมือและสนับสนุนโครงการต่าง ๆ อาทิ

1) การถ่ายทอดความรู้เชิงขั้นตอนให้กับผู้ประกอบการชุมชน ผ่านโครงการโตโยต้า ธุรกิจชุมชนพัฒน์ เพื่อยกระดับขีดความสามารถของผู้ประกอบการชุมชน ในการบริหารจัดการได้อย่างเป็นระบบ เพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตให้ได้มาตรฐาน พร้อมเสริมความรู้เกี่ยวกับการบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อมในสถานประกอบการ ร่วมกับการเสริมทักษะในด้านอื่นๆ ที่จำเป็นในการดำเนินธุรกิจให้แก่ผู้ประกอบการ โดยการสนับสนุนจากกองพัฒนาอุตสาหกรรมชุมชน กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมคำพูดจาก ทดลองปั่นสล็อต

2) กิจกรรมพัฒนาสถานประกอบการด้วยเทคโนโลยีอัตโนมัติผ่านกลไกความร่วมมือ Global Player ซึ่งจัดขึ้นโดยกองพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีอุตสาหกรรม และบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ภายใต้การดำเนินการร่วมกับบริษัทโตโยต้า ออโต้ บอดี้ ประเทศไทย จำกัด ตลอดระยะเวลา 3 ปี กับอีก 23 บริษัท โดยการนำองค์ความรู้ทั้งด้านการจัดการการผลิตและการนำเทคโนโลยีเครื่องจักรอัตโนมัติ มาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ คุณภาพ และลดต้นทุนการผลิตให้ผู้ประกอบการไทย

3) การร่วมดําเนินโครงการอื่น ๆ ที่มีความสนใจร่วมกัน

สำหรับความร่วมมือในครั้งนี้ ถือเป็นการยกระดับการส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการไทย ผ่านองค์ความรู้ด้านการผลิตที่เป็นจุดเด่นของโตโยต้า โดยส่งเสริมทั้งในด้านผลิตผล คุณภาพ การส่งมอบสินค้า การบริหารสินค้าคงคลัง และการบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งส่งเสริมแนวคิดด้านสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน สอดคล้องกับแนวทางของภาครัฐ ที่ส่งเสริมนโยบายความเป็นกลางทางคาร์บอนสู่ระดับชุมชน

ในขณะที่กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ซึ่งพร้อมให้การสนับสนุนแก่ผู้ประกอบการไทยอย่างรอบด้าน จะเป็นส่วนที่ช่วยเติมเต็มการพัฒนาในด้านอื่นๆ ที่ผู้ประกอบการไทยต้องการ อาทิ ทักษะการบริหารจัดการของผู้ประกอบการ การตลาด การเงินการบัญชี การพัฒนาผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ ระบบโลจิสติกส์ ตลอดจนด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีต่างๆ โดยองค์ประกอบทางความรู้ต่างๆ เหล่านี้ จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการไทย ในการพัฒนาศักยภาพการขับเคลื่อนธุรกิจของตนเองได้อย่างครบวงจร เพื่อตอบสนองต่อนโยบายของภาครัฐสู่อุตสาหกรรม 4.0 และช่วยยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการไทยได้อย่างยั่งยืน ตลอดจนเป็นส่วนหนึ่งในกลไกสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก และสร้างเสถียรภาพแก่เศรษฐกิจของประเทศต่อไป